ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กรกฎาคม, 2018
เจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศท่านที่สาม พลอากาศตรี พิชิต บุณยเสนา นายทหารนักบินขับไล่ฝีมือดี ผู้ที่ผ่านสนามรบในกรณีพิพาทอินโดจีน และสงครามมหาเอเชียบูรพามาอย่างโชกโชน เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพอากาศมาแล้วหลายตำแหน่ง เช่น ครูการบินผู้บังคับกองบิน และจากรองเสนาธิการกองบินยุทธการ มาเป็นเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ตั้งแต่ ๒๓ กันยายน ๒๕๐๐ ตามราชกิจจาฯ เล่ม ๗๔ ตอน ๘๒ ฉบับพิเศษ หน้า๖ ลง ๒๖ กันยายน ๒๕๐๐ คำสั่งกลาโหมที่ ๔๐๐ / ๒๐๒๐๒ ลง ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๐๐ และได้รับพระราชทานยศ เป็นพลอากาศโท ในตำแหน่ง ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศฝ่ายยุทธบริการ ตั้งแต่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๐๕ ตามราชกิจจาฯ เล่ม ๗๙ ตอน ๗๙ ลง ๓๑ สิงหาคม ๒๕๐๕ คำสั่งกลาโหมที่ ๑๙๑ / ๑๗๕๙ ลง ๒๙ สิงหาคม ๒๕๐๕ การจัดส่วนราชการและหน้าที่ ในสมัยเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ท่านที่สามนี้ ยังคงใช้อัตรา ทอ.๙๘ ( ผนวกสี่) การแบ่งส่วนราชการ ยังคงแบ่งเป็น กองบริการ กองวิทยาการ กองโรงงานสรรพาวุธ กองโรงงานสร้างกระสุน และกองพัสดุสรรพาวุธ ในห้วงระยะเวลาระหว่างปี ๒๕๐๐ ถึง๒๕๐๕ กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ไม่มีอาคารถาวรเพิ่มขึ้น นอกจากด
  เจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศท่านที่สอง พลอากาศตรี สวัสดิ์ โพธิวิหค นายทหารนักบินฝีมือดี ผู้มีประสบการณ์จากตำแหน่งสำคัญในกองทัพอากาศมาหลายตำแหน่ง และจาก รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารอากาศ มาเป็นเจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ตามคำสั่ง กห ที่ ๒๖๓/๒๒๗๐๘ ลง ๒พ.ย.๙๘ และราชกิจจาฯ เล่ม ๑๒ ตอนที่ ๘๖ ลง ๒๐ ต.ค.๙๘  เจ้ากรมสรรพาวุธทหารอากาศ ท่านที่สองนี้ ดำรงตำแหน่งอยู่จนกระทั่ง ๒๓ ก.ย. พ.ศ.๒๕๐๐ จึงได้ย้ายไปประจำกองบัญชาการกองทัพอากาศ ตามราชกิจจาฯ เล่ม๗๔ ตอนที่ ๘๒ ฉบับพิเศษ หน้า๒ ลง ๒๖ ก.ย.๒๕๐๐ การจัดส่วนราชการและหน้าที่ การจัดส่วนราชการของกรมสรรพาวุธทหารอากาศ ยังคงใช้อัตรา ทอ. ๙๘ เช่นเดิม มีการแบ่งส่วนราชการภายในแบ่งเป็น กองบริการ กองวิทยาการ กองโรงงานสรรพาวุธ กองโรงงานสร้างกระสุน และกองพัสดุสรรพาวุธ กองบริการ ตามอัตราทอ.๙๘ แผนกบริการเดิมได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นกองบริการ  กองวิทยาการ ได้ปรับปรุงส่วนราชการภายในหลายส่วน หมวดธุรการเป็นหมวดสารบรรณ  แผนกวิทยาการ แผนแบบ แผนกวิจัยและ สถิติ ยังคงเดิม แต่ได้เพิ่มแผนกตรวจทดลองขึ้น เพื่อทำการตรวจทดลอง
นับปีที่ ๑ การเริ่มต้น ก่อนหน้าที่จะได้รับการจัดตั้งเป็นกรมสรรพาวุธทหารอากาศนั้น ที่ตั้งของหมวดอาวุธและแผนกอาวุธ ได้โยกย้ายไปหลายแห่ง ตามสถานการณ์ในขณะนั้น โดยจากจากโรงงานการซ่อม ย้ายไปอยู่วัดบึงทะเลสาบ รังสิต จากนั้น ย้ายไปอยู่ที่วัดหลักสี่   ปีพ.ศ. 2489 ย้ายไปอยู่ที่ กรมช่างอากาศ บางซื่อ ปี พ.ศ. 2490 ได้ย้ายที่ตั้งใหม่ โดยย้ายมาที่ดอนเมือง ด้านฝั่งทิศตะวันตกของสนามบินดอนเมือง ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของกองบิน 1 และกองโรงเรียนการบิน จากการจัดสรรงบประมาณของกองทัพอากาศ ในปี พ.ศ. 2492 กรมสรรพาวุธทหารอากาศ ได้รับการจัดสรรอาคารถาวรสองหลัง ซึ่งใช้เป็นกองบังคับการกรมในปัจจุบัน(หมายเลข 101 ) และคลังพัสดุ (หมายเลข 501 ) สถานที่ตั้ง บริเวณด้านทิศตะวันออกของสนามบินดอนเมือง สถานที่แห่งนี้ ถือเป็นที่ตั้งของกรมสรรพาวุธทหารอากาศ จนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2561 ) ในช่วงเวลาเริ่มต้น ของกรมสรรพาวุธทหารอากาศนั้น กำลังพลยอดรวม มีเพียง 51 คน มีการแบ่งส่วนราชการ ตามอัตรา ทอ. 91 โดยแบ่งเป็น กองบังคับการ แผนกเทคนิค แผนกช่างแสง และแผนกคลังแสง   ต่อมา เมื่อมีภารกิจเพิ่มขึ้น ได้มีการปรับจัดส่วนราช